เสียงสะท้อนของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างจ้ากว่าปกติ หรือที่เรียกว่า ไฟซีนอน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายขณะขับรถสวนทางมาหรือขับตามหลัง ทำให้สายตาพร่ามัว ตำรวจจราจรเตรียมตรวจเข้มผู้ขับขี่ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างหน้ารถผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบก.จร. กล่าวว่า ผู้ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างจ้ากว่าปกติหรือ ที่เรียกไฟซีนอนเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นหลอดไฟที่วิวัฒนาการมาจากหลอดไฮโดรเจน แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะเห็นว่าเป็นโคมและมีหลอดไฟในลักษณะแหลมตรงกลาง ถ้าเป็นอดีตจะเป็นไฟสีเหลือง หลังจากที่เป็นโคมไฮโดรเจนความสว่างไม่เพียงพอ จึงมีการพัฒนาหลอดส่องสว่างเข้ามาใหม่ หรือที่เรียกว่าหลอดซีนอน ซึ่งต้องมีบาลาสต์ที่มีความเข้มของแสงมากกว่าไฮโดรเจนถึง 2 เท่า ในช่วงหนึ่งมีบางคนต้องการให้ไฟหน้ารถตัวเองสว่างจึงไปซื้อหลอดซีนอนมาใส่ในโคมไฮโดรเจน ปัญหาคือโคมไม่ได้ออกแบบมาทำให้เวลาผู้ใช้รถใช้ถนนสวนทางมาจะส่องกระทบหน้าและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ ม.12 อัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000บาท ซึ่งตำรวจได้เข้มงวดกวดขันจับกุมอยู่ โดยเป็นการตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดกฎจราจร
สำหรับข้อกำหนดในการติดตั้งไฟหน้ารถมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า
- ต้องต่ำ ส่องไปแล้วมองเห็นในระยะ 30 เมตร
- ไฟสูงในระยะ 100 เมตร จะไม่เป็นการรบกวนสายตาผู้อื่น
ขณะที่ พ.ร.บ.จราจรทางบก กำหนดให้ไฟหน้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกชนิดที่ใช้งานบนท้องถนน จะต้องมีแสงสีขาว หรือเหลืองอ่อน (ค่า K ไม่เกิน 12,000 K เต็มที่) ติดตั้งสูงจากผิวทางไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร ซึ่งความสว่างของแสงไฟสามารถส่องทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และไม่เอียงไปทางขวาจนรบกวนสายตาผู้อื่น ส่วนการดัดแปลงไฟหน้ารถให้เป็นแสงสีอื่น หรือทำให้มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป เมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน จะสะท้อนเข้ากระจกมองข้าง หรือกระจกมองหลังของผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้า หรือส่องเข้าตา ผู้ขับขี่ที่ขับสวนทางมา ทำให้สายตาพร่ามัว จนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้จากแสงไฟที่แรงเกินค่ามาตรฐานของทางการ ซึ่งผู้ที่ใช้รถที่เพิ่มส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไปจนก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่าง กาย หรือจิตใจของผู้อื่น มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ข่าวจาก Nation TV
