วันที่ 16 ตุลาคม พล.อ. สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ในปีงบประมาณ 2559 จะแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ก่อนเริ่มดำเนินโครงการ (กรกฎาคม-ตุลาคม 2558) ระยะที่ 2 การเริ่มดำเนินโครงการ (ตุลาคม 2558-มกราคม 2559) ระยะที่ 3 การติดตามและประเมินผลหลังการดำเนินการโครงการ (มกราคม-เมษายน 2559) และระยะที่ 4 การขยายผลในสถานศึกษาทั่วไป (พฤษภาคม-กันยายน 2559)
โดยจะเป็นการปรับลดชั่วโมงเรียนบางวิชาให้น้อยลง แต่ต้องไม่กระทบเนื้อหาหลักที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ เพิ่มเวลาและโอกาสให้เพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นหาศักยภาพและความชอบของตนเอง
ในการจัดการเรียนการสอน ก่อนเวลา 14.30 น. เป็นการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลังจากนั้นให้ผู้เรียนทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ นอกห้องเรียนอย่างหลากหลาย เริ่มดำเนินการพร้อมกันวันที่ 2 พ.ย. 2558 หรือภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ในโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว 3,831 โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 3,447 โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 384 โรงเรียน หลังจากเริ่มปฏิบัติการเรียนการสอนไปแล้ว 1 ภาคเรียน จะประเมินเพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียเพื่อปรับปรุงก่อนนำมาเป็นแนวทางให้โรงเรียนอื่นๆ นำมาปฏิบัติต่อไป
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:55:54 น.
หมายเหตุ จากกระแสสังคมที่ตามมา
- ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี แต่จะสร้างปัญหามากกว่า ทางที่ดีควรงดกิจกรรมต่างๆ เช่นกีฬาเครือข่าย กิจกรรมเเข่งอาเชียน กิจกรรมศิลปหัตถกรรม และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายที่เบียดบังเวลาเรียนจนครูไม่ได้สอน ให้เครื่องมือที่ดีสื่อๆ ส่งให้ครูผู้สอน ให้ขั้นเลย ถ้าครูคนไหนสอนจนเด็กได้ผลคะแนน O-NET ที่สูงเพราะหมายถึงเด็กได้ทุกคนไม่ใช่เฉพาะบางคนที่ครูฝึกเพื่อประกวดแข่งขันที่มุ่งเอาขั้น จนไม่สอนและสุดท้ายติดกล้องวงจรปิดทุกห้องทั้งโรงเรียนจับผิดครูที่ไม่สอนเพราะมัวแต่เล่นโทรศัพท์ ที่สำคัญการลอกแบบจากต่างประเทศมาไม่ได้หมายความว่าจะใช้ได้กับเด็กไทย
- ในฐานะครูดนตรี แต่ก่อนผมต้องซ้อมหลังเลิกเรียนค่ำ ๆ เช้ามาก็เป็นนกฮูกทั้งครูทั้งเด็ก แต่นโยบายนี้จะช่วยให้ผมมีเวลาซ้อมดนตรีให้เด็ก ในเวลาราชการ กลับบ้านไม่ค่ำ เยี่ยมมาก ฟันธง!!
- ลองย้อนกลับไปดูสภาพการณ์ที่เป็นจริง ของ ครูผู้สอน”บางคน”ซิครับ…..ขนาด ให้สอนเต็มเวลา เต็มคาบ ที่กำหนดในตารางสอน เขายังเบียดบังเวลาการสอน ไปทำงานส่วนตัว เพื่อประโยชน์ส่วนตน….ยิ่ง ถ้าจะให้ลดเวลาเรียน เหลือเพียง 14.00 น. …..ก็เข้าทางเค้า ทันที……มั่นใจหรือว่า ครูที่ไม่มีวิญญาณของความเป็นครู จะใช้เวลาที่เหลืออีก 2 ชั่วโมง ให้เกิดประโยชน์กับเด็ก ได้จริงหรือ…..
ที่มาเนื้อหา : krooupdate.com
